[Ts-fic] เธอรู้หรือเปล่า - [Ts-fic] เธอรู้หรือเปล่า นิยาย [Ts-fic] เธอรู้หรือเปล่า : Dek-D.com - Writer

    [Ts-fic] เธอรู้หรือเปล่า

    เสียงตะคอกที่ส่งผ่านออกมาเมื่อจะเป็นเพียงตัวเลข แต่ก็สามารถจับกระแสอารมณ์ได้ว่าคนที่พูดกำลังบีบคั้นตัวคนฟังอยู่ ไม่ชอบเลย... ถึงแม้จะรู้ว่ามันเป็นแค่การแสดง แต่... ไม่ชอบเลย...

    ผู้เข้าชมรวม

    664

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    664

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  22 ก.ย. 53 / 00:41 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Title : เธอรู้หรือเปล่า

      Status : one-shot

      Fandom : The star 6

      Pairing : Tono x Ritz (มั้ง? จริงๆก็เหมือนมีแต่ริท)

      Author : giftchan@exteen(kozegegyb@dek-d)

      Rating : PG-13

      Genre : AU

       

       

       

       

      “71 … 72…”


      “95…  96…”

       

      เสียงตะคอกที่ส่งผ่านออกมาเมื่อจะเป็นเพียงตัวเลข แต่ก็สามารถจับกระแสอารมณ์ได้ว่าคนที่พูดกำลังบีบคั้นตัวคนฟังอยู่


      ถ้าเป็นปกติ  เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้  ผมจะหนี   แต่ครั้งนี้จะหนีก็หนีไม่ได้ เพราะอาจารย์เอามือดันให้ตัวไว้ทำให้ออกมาจากวงล้อมของเซนกับกันไม่ได้

       

      ไม่ชอบเลย...

       

      ถึงแม้จะรู้ว่ามันเป็นแค่การแสดง   แต่...      ไม่ชอบเลย...

       

      เป็นอะไร... เป็นอะไรเป็นอะไรเสียงถามซ้ำๆของคุณครูแอคติ้งเอ่ยถามผม ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความคิดมากของผมเองหรืออะไร ที่ทำให้ผมรู้สึกว่าครูแอคติ้งถามเค้าด้วยน้ำเสียงที่เหมือนเย้ยหยันที่ผมเถียงสู้คนอื่นไม่ได้

       

      ก็ตามปกติของริท เวลาเจออะไรอย่างนี้  ริทจะเป็นคนถอยอ่ะครับ ริทจะไม่อะไรกับมัน  คือมันออกมาจากสัญชาตญาณที่ริทไม่พุ่งใส่คนอื่นอ่ะครับ ผมตอบไปด้วยพยายามเก็บสีหน้าว่าตัวเองกำลังรู้สึกไม่พอใจอยู่

       

      อ้าว แล้วถ้าต้องพุ่งละครับ ผมไม่รู้ว่าสีหน้าผมตอนที่คุณครูพูดมาเป็นอย่างไร แต่ที่แน่ๆตอนนี้ในใจผมมันปั่นป่วนไปหมด

       

      ลองเปลี่ยนเป็นริทที่เอ่อ.. ที่ไม่มีตัวตนที่บอกให้สู้ก็สู้โดยไม่ต้องคิด เอาใหม่!”

      ผมอยากจะทำได้ทุกอย่างที่ครูบอกให้ผมทำ เมื่อครูบอกให้เอาใหม่ ผมก็จะพยายาม  หลังจากรวบรวมสมาธิ  ผมเลยเริ่มอีกครั้ง

       

      63... 64.. 6567... 68.. 69... ผมเริ่มด้วยน้ำเสียงที่บึ้งตึง แล้ววาดมือไปในอากาศเพื่อบ่งบอกถึงอารมณ์ของผม

       

      37 เกดเป็นฝ่ายที่โต้ตอบผมคนแรก

       

      84... 79.. 20.. 27.. 84.. 85.. ผมพยายามใส่อารมณ์อย่างเต็มที่ จนทำให้ผมพูดเลขที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย  เริ่มกันก็ลุกขึ้นมาเสริมทัพเกด  และเริ่มต้นด้วยการชี้หน้าแล้วพูดออกมาเป็นตัวเลข 90...91.. มันเริ่มทำให้ผมใจเสีย

       

      92 ผมโต้ตอบด้วยพยายามไม่ให้ดูเหมือนว่ากลัว


      92... 93... กันชี้หน้าแล้วพูดด้วยน้ำเสียงตะคอกอีกครั้ง กลายเป็นว่าตอนนี้มีผมกับกันที่กำลังเถียงกันอยู่

       

      84... 85... 86... ผมพยายามจ้องตอบสายตาของกันที่ปกติจะดูหวานและขี้เล่น  แต่ตอนนี้ขมึงทึงใส่ผม

       

      94... 95... กันโต้ตอบผมอย่างไม่ลดละ

       

      37... 38.. ผมพยายามใส่อารมณ์ในทุกคำพูด จนทำให้ผมต้องส่ายหัวเพื่อเค้นคำออกมา

       

      96... 97... คราวนี้กันชี้หน้าผมด้วยระยะห่างเพียงคืบ จนทำให้ผมเกือบจะคิดว่า เค้ากำลังดูถูกผมอย่างแรง ซึ่งมันทำให้ผมเริ่มจะกระอักกระอ่วนใจ แต่ผมก็พยายามฝืนแล้วพูดออกไปว่า 24 แล้วทำเหมือนกับว่าที่เค้าชี้หน้าผม มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอะไร

       

      24 ผมย้ำคำเดิมอีกครั้ง แล้วก็เลียนแบบกันที่เอานิ้วชี้หน้าคู่โต้เถียง คราวนี้เป้าหมายของผมไม่ใช่กัน แต่เป็นเกดที่เงียบไปแต่กำลังยิ้มมาที่ผม  เกดโต้ตอบผมกลับอย่างดุเดือด 34  ซ้ำยังปัดมือของผมราวกับว่ามันไม่ได้ทำให้เกดรู้สึกแย่ กลับกลายเป็นผมเองที่รู้สึกแย่

       

      24 ผมย้ำอีกครั้งกับทั้งสอง ทำเหมือนว่าผมไม่ได้รู้สึกกดดัน แต่เหมือนกับว่าตอนนี้จะมีคนเข้ามาผสมโรงเพิ่ม ผมเหลือบไปเห็นพี่โตโน่ฉีกยิ้มมาแต่ไกล

       

      เขาเป็นคนสุดท้ายที่ผมคิดว่าจะมาร่วมกันรุมผม ถึงแม้ว่าเขาจะชอบแกล้งคนอื่น แต่เขาเป็นคนที่รู้ดีว่า ผมเกลียดสถานการณ์แบบนี้ที่สุด ผมพยายามสลัดความคิดน้อยใจออกไป แล้วท่องในใจว่ามันเป็นแค่การแสดง

       

      82 ผมพยายามทำเหมือนไม่สนใจผู้ที่มาใหม่  ตอนนี้ทุกคนกำลังยิ้ม ผมไม่เข้าใจว่าพวกเขากำลังยิ้มอะไรกัน

       

      ....ยิ้มที่เห็นผมตกอยู่ในสภาพนี้ ? 

       

      ....หรือยิ้มเพราะพวกเขาได้รุมแกล้งผม ?

       

       

      78 เสียงเกดดึงให้ผมกลับมาสู่สถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า  และทำให้ผมกลับมาเพ่งเล็งเกด  24...24...  ผมทำหน้าตาเหมือนตอนที่ผมแสดงว่าผมโกรธและชี้หน้าใส่เกด แต่เกดก็เอามือปัดอีกเหมือนเดิม มันทำให้ผมคิดได้ว่า ทำไมตอนกันชี้หน้าผม ผมถึงไม่ปัดมือกัน แต่กลับให้กันชี้หน้าอยู่ได้     ผมมันช่าง....  โง่ จริงๆ

       

      9  เสียงที่ผมไม่อยากได้ยินก็ดังขึ้น มันทำให้ผมนิ่งไปชั่วขณะ แล้วเสียงของกันก็ตามมาทันที 11 

       

      ไม่ทันที่ผมจะได้ตอบโต้อะไร คนคนนั้นก็ย้ำคำเดิมว่า 9  ผมทำได้แต่หลับตาและไม่ตอบโต้ คราวนี้ทั้งเกดและกันก็ใส่ผมไม่ยั้ง  8 11

       

      11... 11... 11... คราวนี้กลายเป็นว่าทุกคนรุมผมด้วยเลขเดิม ซ้ำๆ  ซ้ำๆ  ถึงแม้มันจะเป็นเพียงแค่ตัวเลข  แต่ทำไมผมถึงรู้สึกเจ็บก็ไม่รู้  ผมได้แต่กวาดสายตามองพวกเขาทุกคน

       

      แล้วเซนก็เข้ามาร่วมวง 83 แต่เซนหันไปเถียงกับเกดแทน  แล้วเสียงต่างๆรอบตัวของผมก็เหมือนกับเบลอไปหมด เพราะตอนนี้ผมแทบจะไม่รับรู้อะไรอีกแล้วว่าอะไรเป็นอะไร  ผมได้แต่มองพวกเค้าที่สาดอารมณ์ใส่กันอย่างคนที่รู้สึกว่าตัวเองไม่มีอะไรจะไปสู้กับพวกเค้า แล้วพวกเค้าก็หันมาหาผม 11...11...11

       

      ผมได้ยิน 11 ไม่รู้ต่อกี่ครั้ง ก่อนที่แรงเฮือกสุดท้ายของผมจะถูกปลดปล่อยออกมา 24...36...37...39

      จากนั้น ไม่ว่าพวกเค้าจะพูดอะไร ผมก็ไม่สนใจ ผมใส่แบบไม่คิดชีวิต 5..42..42!!!” คำสุดท้ายเป็นคำที่บ่งบอกว่าความอดทนของผมได้สิ้นสุดลงแล้ว

       

      แต่เสียงของครูก็ดังขึ้นว่า ไม่ได้... จะยอมไม่ได้

       

      ผมจึงพยายามรวบรวมอารมณ์สุดท้าย พูดตอกหน้าทีละคน 45.. 38...20... 24.. 24!!!” ตอนนี้ผมจะไม่ไหวแล้ว และราวกับว่าทั้งห้องเงียบ เหลือแต่เพียงเสียงของคนที่ผมไม่อยากจะได้ยิน ได้แต่พูดว่า 26...26...26  ผมได้แต่มองหน้าเค้า พยายามจะชี้หน้าเค้า แต่เค้นคำออกมาเท่าไหร่มันก็เหมือนจะกลืนหายไปในลำคอจนหมดสิ้น  ผมทำได้แต่หลบตาทุกคน พยายามหลับตาและก้มหน้า  แต่ทุกคนก็พยายามแหงนหน้าและพูดกรอกใส่หูผม

       

      ตอนนี้.... ผมไม่ไหว...

       

      ราวกับคุณครูจะอ่านใจผมออก จึงพูดขึ้นมาว่า เอ้า พอแล้ว หยุดๆๆ อยู่อย่างนี้ แล้วครูก็พาพวกเค้าออกไปจากผม

       

      ผมได้แต่มอง... มองพวกเค้าห่างออกไป...

       

      แล้วเสียงของคนที่อยากได้ยินเมื่อยามที่ผมหมดกำลังใจก็ดังขึ้นและชี้มาทางผม เดี๋ยวมันจะโกรธเอานะ มันทำให้ผมรู้สึก...เหมือนจุกที่คอ  แล้วเสียงของเกดก็ดังขึ้นว่า จะร้องไห้แล้วน่ะ จากนั้น พวกเค้าก็สุมหัวกันกระซิบกระซาบบางอย่าง

       

       

      ผมได้แต่มอง... มองแผ่นหลังของพวกเค้า...

       

      และแล้ว เหตุการณ์ก็ย้อนกลับมาอีกครั้ง พวกเค้ากลับมารุมสาดอารมณ์ใส่ผมอย่างไม่หยุดยั้ง และดูเหมือนจะรุนแรงกว่าครั้งที่แล้ว  ผมได้แต่หลบนิ้วที่พวกเค้าชี้มาให้เค้าและไม่ตอบโต้เค้าเลยสักคำ  แล้วผมก็ได้แต่คิดว่าต้องโต้ตอบอะไรพวกเค้าไปบ้าง 19..20...21 

       

       36...34...35 36...34...35 36...34...35

       

      แต่ตอนนี้... ผมไม่ไหวแล้ว... 

       

      ผมได้แต่มองหน้าพวกเค้าทีละคนอย่างเหนื่อยอ่อน 25... 42... 37... 49... 49... 52... 43...

       

      ตอนนี้... ผมไม่ไหวแล้ว... จริงๆ

       

       

      เอาละ พอแล้ว เสียงของครูเหมือนเสียงสวรรค์สำหรับผม ไม่ทันที่ผมจะได้ทำอะไร กลายเป็นว่าตอนนี้ผมเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของคนที่ผมต้องการกำลังใจจากเค้ามากที่สุด  แล้วจู่ๆ น้ำใสๆก็ไหลมาจากตา

       

      เพื่อนๆต่างพากันมารุมล้อม  แต่นาทีนี้ผมไม่อยากให้ใครมาเห็นน้ำตาผม  ทำได้แต่ก้มงุดๆอยู่ในอ้อมกอดของพี่ชายคนสนิท ที่ดูเหมือนจะรู้ใจ  เลยพยายามเหวี่ยงๆไม่ให้คนอื่นเข้ามาใกล้

       

      ไม่ต้องปลอบ... ปล่อยมัน เสียงครูแอคติ้งดังมาเป็นระยะ  ผมได้แต่บอกพี่โตโน่เบาๆว่า ปล่อยผมได้แล้ว แต่ดูเหมือนว่าพี่เค้าจะไม่ได้ยินของผม

       

      มันเลยทำให้พี่เค้ากอดพี่แน่นขึ้น...

       

      แน่นขึ้นเรื่อยๆ     จนผมแทบจะไม่ได้ยินเสียงจากคนรอบข้าง เพราะได้ยินแต่เสียงพี่เค้า

       

      ผมไม่รู้ว่าผมกอดพี่เค้านานเท่าไหร่ จนเมื่อผมเริ่มรู้สึกดีขึ้น แล้วก็เป็นจังหวะกับที่พี่เค้าคลายผมออกจากอ้อมกอด แต่มือพี่เค้าก็ยังอยู่ไหล่ผม    ผมได้แต่ปาดน้ำตาปอยๆ เมื่อกวาดสายตามองไปยังเพื่อนๆที่เหลือ

       

      ร้องไห้เรื่องอะไร เสียงครูเอ่ยถามขึ้นมา หลังจากที่ผมเงียบไปนาน

       

      ก็... ไม่ชอบให้ใครมาดูถูกครับ...  ไม่ชอบให้ใครมาว่า... ไม่รู้ว่าผิดอะไร... แต่ทำไมเค้าต้องมาว่าผม...

      ผมไม่ชอบเลยที่มีใครมาทำท่าดูถูกผมอย่างนี้ ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของพวกเค้าตอนนั้น มันทำให้ผมรู้สึกเจ็บจริงๆ

       

       

      แต่...

       

       

      ขอเพียงแค่มีคนที่อยู่ข้างๆคนนี้ ...   

       

       

      แค่มีอ้อมกอดที่มอบให้อย่างนี้...   

       

       

      แค่เห็นรอยยิ้มของเค้าอย่างนี้...

       

       

      ผมไม่ขออะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว...

       

       

       

      Writer's note :  เรื่องนี้มีแรงบันดาลใจจาก http://www.youtube.com/user/SkSutawee#p/u/25/TggB1kkse9I  เรื่องนี้แต่งไปแต่งมาเหมือนฟิคใบ้หวยเลยแฮะ เพราะเห็นแต่ตัวเลขเต็มไปหมด 555 และตอนนี้ก็เหมือนจะเป้นแค่ภาคริทใช่มะ ไม่แน่อาจจะมีภาคโตโน่  ไม่แน่นะ ไม่แน่ 555

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×